เมนูอาหาร มีความสำคัญค่อนข้างมากสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร จะขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ เพียงใดก็ตาม ดังจะเห็นได้จากการนำเมนูอาหารมาตั้งโชว์ไว้หน้าร้านตามห้างสรรพสินค้าหรือโมเดิร์นเทรดต่างๆ วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้ลูกค้าได้รับรู้ว่าทางร้านมีรายการอาหารคาวหวานอะไรบ้าง และเสนอขายในราคาเท่าไหร่ ดังนั้น การออกแบบและผลิตเมนูอาหาร จำเป็นต้องมีความโดดเด่น สวยงาม และสะดุดตา เพราะถือเป็นหน้าต่างบานแรก เชื้อเชิญลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ
หลักในการออกแบบ เมนูอาหาร จะขึ้นอยู่กับ Theme ของแต่ละร้านเป็นสำคัญ เช่น ร้านอาหารไทยฟิวชั่น มู้ดแอนด์โทนก็อาจออกไปในแนวสีสัน ทันสมัย ร้านเครื่องดื่มหรือขนมหวาน ก็ควรต้องแสดงออกถึงความสดใส ร่าเริง มีชีวิตชีวา เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะเป็นร้านประเภทใด ไฮไลท์ก็จะอยู่ที่ รูปภาพ ของอาหารนั่นเอง ภาพต้องคมชัด เหลี่ยมมุมที่ถ่ายต้องออกมาดูดี น่ารับประทาน ซึ่งงานดีไซน์ด้วยการเทสีเรียบๆ เป็นพื้น Background ก็จะช่วยลดทอนฉากหลัง เพื่อขับเน้นให้รูปภาพอาหารดูโดดเด่น นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มเทคนิค ใส่ลูกเล่นต่างๆ ได้อีกมากมาย ทั้งการไดคัทมุมบนของตัวเล่ม การปั๊มนูนตัวอักษรชื่อร้าน หรือการทำ Spot UV (การเคลือบเงาเฉพาะจุด) ก็จะยิ่งช่วยให้เมนูอาหารมีมิติ ดึงดูดใจมากขึ้น
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักจะมอบหมายให้ทางโรงพิมพ์ เป็นผู้ออกแบบและพิมพ์เมนูอาหารไปพร้อมๆ กัน เพื่อลดขั้นตอนการว่าจ้าง หาผู้ออกแบบเจ้าหนึ่ง หาโรงพิมพ์ผลิตอีกเจ้า และงานในลักษณะนี้โดยมากก็จะสั่งพิมพ์ในระดับ 10-50 เล่ม โดยประมาณ ซึ่งจะเหมาะกับโรงพิมพ์ในระบบดิจิตอลมากกว่าโรงพิมพ์ระบบออฟเซ็ต เนื่องจากโรงพิมพ์แบบแรกมีความสะดวก รวดเร็ว มากกว่า สั่งพิมพ์จำนวนเท่าใดก็ได้ ไม่มีขั้นต่ำ ทั้งยังไม่จำเป็นต้องทำเพลทเหมือนโรงพิมพ์แบบหลัง นอกจากจะช่วยลดเวลาและต้นทุนการผลิตลงแล้ว คุณภาพของงานพิมพ์ก็แทบจะไม่แตกต่างกัน
สำหรับ กระดาษ ที่นำมาใช้ในงานพิมพ์เมนูอาหาร ควรเป็นกระดาษแบบอาร์ตการ์ด 260 จนถึง 350 แกรม (แกรมยิ่งมาก กระดาษยิ่งหนา) เพราะลักษณะการนำไปใช้ จะถูกเปิดอ่าน พลิกไปพลิกมาอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นกระดาษต้องมีความหนาพอควร เพื่อความแข็งแรง ทนทาน ส่วนขนาดกระดาษที่นิยม จะเริ่มตั้งแต่ขนาด A4 ขึ้นไป แต่ไม่ควรเกินขนาด A3 เพราะจะดูใหญ่ เทอะทะ มากไป แถมยังกางออกลำบาก ทั้งนี้ ความสวยงามคงทน ของงานพิมพ์เมนูอาหาร จะอยู่ที่การเลือกความหนาของกระดาษ และการเคลือบ PVC ด้านหรือเงา ส่วนราคางานพิมพ์ต่อเล่ม ก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนที่สั่งผลิต ยิ่งสั่งพิมพ์มากราคาต่อเล่มก็จะถูกกว่าการสั่งพิมพ์น้อยเป็นสำคัญ.